บทความต้องรู้

เพราะรอยยิ้มของคุณ คือความสุขของเรา

หน้าหนาว เช็คก่อนขับขี่รถยนต์ ปลอดภัยชัวร์

18/มิ.ย./2564

                   ฤดูหนาวจะเป็นช่วงที่เรารู้สึกชอบและสบายตัวที่สุด แต่อย่าละเลยตรวจเช็คระบบไล่ฝ้า น้ำยาฉีดกระจก ระบบเบรค และสัญญานไฟต่างๆ ไว้ให้ดี

            ฤดูหนาว ปกติแล้วช่วงนี้เหมาะต่อการท่องเที่ยวไปต่างจังหวัดแถบโซนภาคเหนือที่สุด นั่นทำให้หลายท่านจำเป็นต้องขับรถทางไกลเพื่อไปสัมผัสอากาศหนาวเย็นบนพื้นที่สูง บางครั้งก็อาจเจอสภาพอากาศที่แปรปวนทั้งลมแรง หมอกลงจัด หรือแม้กระทั่งมีฝนตกปรอยจนถนนลื่น ดังนั้นการตรวจเช็คสิ่งสำคัญ 4 อย่างที่เราจะบอกต่อไปนี้จึงนับว่าจำเป็นอย่างยิ่ง

1. ระบบไล่ฝ้า

ฝ้าที่กระจกรถเกิดจากอุณหภูมิความชื้นภายในและภายนอกรถแตกต่างกัน ฝ้าที่กระจกรถด้านนอก เกิดจากอุณหภูมิภายนอกสูงกว่าภายใน และฝ้าที่กระจกด้านในเกิดจากอุณหภูมิภายในรถสูงกว่าภายนอก สำหรับการตรวจเช็คระบบไล่ฝ้าก็ทำด้วยการทดลองเปิดใช้งานระบบทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ตรวจดูว่าระบบทำงานปกติหรือไม่ ถ้ามีจุดใดเสียก็ให้รีบซ่อมแซมเสียแต่เนิ่นๆ เพื่อความปลอดภัยกันนะคะ

2. น้ำยาฉีดกระจก

ขณะที่ขับขี่รถไม่ว่าจะเป็นช่วงสภาพอากาศทั้งร้อน ฝนตก หรือหนาวจัด ใบปัดน้ำฝนดูเหมือนเป็นสิ่งที่ทำงานอยู่บ่อยครั้ง โดยในฤดูหนาวมันจะถูกใช้เพื่อปัดเอาฝุ่นหรือซากแมลงตายแล้วที่ติดหนึบอยู่บนกระจกหน้าออกไป ดังนั้นการตรวจเช็คระดับน้ำยาฉีดกระจกให้เต็มอยู่เสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน อย่างไรก็ตามการเติมน้ำยาฉีดกระจกอาจเติมน้ำเปล่า หรือซื้อน้ำยาเฉพาะมาใช้ก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าของรถต้องการความสะอาดและสะดวกขนาดไหน

3. ระบบเบรก

ก่อนขับรถทุกครั้งการตรวจเช็คผ้าเบรกกับน้ำมันเบรกคือสิ่งที่สำคัญอย่างมาก เพราะไม่ว่าคุณจะขับไปจ่ายตลาดใกล้บ้านหรือออกไปท่องเที่ยวช่วงฤดูหนาว สิ่งที่กล่าวมาตอนต้นนั้นช่วยให้คุณถึงที่หมายได้ปลอดภัย เริ่มด้วยการดูผ้าเบรกว่าเหลือมากน้อยขนาดไหน ต่อมาคือการดูจานเบรกว่าสึกลึกลงไปเท่าใดแล้ว รวมถึงสังเกตุลักษณะของจานเบรกว่ามีความคดหรือไม่ สิ่งสุดท้ายคือดูน้ำมันเบรกว่าเหลือเท่าไหร่ถ้าน้อยก็ให้เติมลงไป และหากเป็นไปได้ก็ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรกปีละครั้งเพื่อเป็นการไล่ความชื้น และทำให้การเบรกมีประสิทธิภาพสูงสุดตลอดเวลา

4. สัญญาณไฟ

เรื่องของสัญญาณไฟ โดยที่นี้เหมารวมทั้งไฟเลี้ยว ไฟเบรก และไฟตัดหมอก เนื่องจากการขับขี่บนถนนหลวงเต็มไปด้วยผู้ร่วมเส้นทาง การให้สัญญาณต่างๆ จึงเป็นที่ต้องทำทุกครั้ง ยิ่งในช่วงฤดูหนาวที่อาจมีหมอกลงจัดในบางช่วง ทัศนวิสัยการมองเห็นจะลดน้อยลงอย่างมาก ซึ่งถ้าไฟต่างๆ ที่กล่าวมาเกิดชำรุดใช้งานไม่ได้ นั่นอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงขึ้นอย่างไม่คาดคิด ดังนั้นผู้ขับขี่จึงควรตรวจสอบและเปลี่ยนหลอดไฟให้สว่างและใช้งานได้ตามปกติอยู่เสมอ

                 จากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ขอให้ทุกท่านเตรียมความพร้อมให้ดี ทั้งความพร้อมทางร่างกาย จิตใจและมีสติ ไม่ประมาท พร้อมทั้งดูแลรถยนต์ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมที่สุด และขับขี่อย่างระมัดระวังแค่ก็จะทำให้คุณปลอดภัย  

                 ก่อนจากกันฝากร้านนิดหนึ่งนะคะ หากใครที่กำลังมองหาร้านรถยนต์มือสอง ให้คิดถึงเรา คุ้มค่าคุ้มราคา อนุมัติไว ผ่อนสบาย ฟรีดาวน์ รถมือสองพัทยา รถมือสองชลบุรี เต็นท์รถมือสองที่ใหญ่ที่สุดในพัทยา รถมือสองสภาพสวย สภาพนางฟ้า ไม่ว่าจะเป็น รถเก๋ง รถกระบะ รถครอบครัว ต้องที่นี่ “ไมค์ คาร์ เเกลเลอรี่” เท่านั้น!!!

                 ปล.สนใจซื้อตอนนี้มีโปรโมชั่นดีๆรออยู่นะจ๊ะ

บทความอื่นที่ใกล้เคียง

เพราะรอยยิ้มของคุณ คือความสุขของเรา

ลมยางรถยนต์ควรเติมเท่าไหร่จึงจะดีที่สุด

รถแต่ละประเภทหรือแต่ละรุ่นเติมแรงดันลมยางไม่เท่ากัน จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามโดยเด็ดขาดเลยนะคะ แรงดันลมยางที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเติมลมยางรถเก๋งนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 30-32 PSI (ปอนด์ต่อตารางนิ้ว) สำหรับล้อหน้าและล้อหลัง แต่ถ้าหากต้องบรรทุกน้ำหนักมาก เช่น กรณีที่มีผู้โดยสารเต็มทั้ง 5 ที่นั่ง หรือบรรทุกของด้านหลังจนเต็ม อาจเพิ่มปริมาณการเติมได้ถึง 33-35 PSI เนื่องจากน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้น ส่วนแรงดันลมยางที่เหมาะสมที่สุดสำหรับรถกระบะนั้นจะค่อนข้างใช้ลมยางที่มากกว่ารถเก๋งโดยสารตามปกติ โดยสำหรับล้อหน้าแรงดันยางจะอยู่ที่ประมาณ 36-38 PSI และล้อหลังที่ 40-42 PSI แต่ถ้าหากบรรทุกของเต็มท้ายรถ ก็สามารถเพิ่มปริมาณการเติมลมเพื่อรองรับน้ำหนักได้มากถึง 47-51 PSI เลยทีเดียวค่ะ

ไส้กรองอากาศ ตรวจเช็กง่ายๆ ด้วยตัวเอง

ไส้กรองอากาศ มีหน้าที่ เปรียบเสมือนจมูกของคนเราเนี่ยแหละค่ะ หากสูดอากาศที่มีแต่เศษฝุ่นเข้ามาก ๆ ก็ไม่ดีต่อร่างกาย ไส้กรองอากาศจะค่อยดักจับฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกไม่ให้เข้าไปภายในเครื่องยนต์ ซึ่งเมื่อใช้งานไปนาน ๆ อาจจะทำให้เกิดการอุดตัน อากาศผ่านเข้าไปในกระบอกสูบได้น้อยลง และทำให้การเผาไหม้ในห้องเครื่องยนต์ไม่สมบูรณ์ อายุการใช้งานของไส้กรองอากาศจะสั้นหรือยาว ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละบุคคล และสภาพแวดล้อมเป็นหลัก โดยปกติทางบริษัทรถยนต์ กำหนดให้เราเปลี่ยนไส้กรองอากาศทุก ๆ 20,000-40,000 กิโลเมตร

วิธีการเลือกรถยนต์มือสอง

ในยุคสมัยปัจจุบันนี้การจะออกรถยนต์ใหม่ป้ายแดงสักคัน อาจเป็นปัญหาใหญ่สำหรับใครหลายๆคนเนื่องจากเราทุกคนก็คงไม่ยากจะเพิ่มภาระให้ตัวเองในสภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ ผู้คนส่วนใหญ่จึงหันมามองที่ตลาดรถยนต์มือสอง เพราะว่าในราคาที่เท่ากันเราสามารถที่จะซื้อรถยนต์มือสองยี่ห้อเดียวกันรุ่นที่เหนือกว่ารถยนต์ป้ายแดงยี่ห้อเดียวกัน หรือ สามารถที่จะซื้อรถยนต์รุ่นเดียวกันในราคาที่ต่ำกว่า แต่ก่อนที่เราจะตัดสินใจซื้อเราควรมาทราบถึงวิธีการเลือกรถยนต์มือสองที่จะทำให้เราได้รถยนต์มือสองที่สภาพดีและคุ้มค่ากับราคาและลดปัญหาที่จะพบเจอจากรถยนต์มือสองที่เราตัดสินใจซื้อ โดยขั้นตอนในการเลือกและตรวจสอบรถยนต์มือสองมีตามขั้นตอนดังนี้

scroll up