บทความต้องรู้

เพราะรอยยิ้มของคุณ คือความสุขของเรา

เติมน้ำมันสลับไปมามีผลเสียกับรถไหม ?

02/มิ.ย./2566

                ในช่วงที่ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นสูงมากเป็นประวัติการณ์ ทำให้ใครหลายคนอาจหันมาเปลี่ยนน้ำมัน หรือเติมน้ำมันที่มีราคาถูกลง เช่น จากเดิมเคยเติม น้ำมัน 95 แล้วเปลี่ยนเป็นเติม แก๊สโซฮอลล์ E20 ที่มีราคาถูกกว่า ในกรณีนี้เราจะสามารถเติมน้ำมันผสมกันได้หรือไม่ เติมสลับไปมากันได้หรือไม่ หรือในกรณีที่เติมน้ำมันผิด เติมน้ำมันคนละประเภทจากที่เคยเติมในถังเดิม จะทำให้รถยนต์เกิดปัญหาอะไรหรือเปล่า วันนี้เราไปหาคำตอบกับ #ไมค์คาร์ แกลเลอรี่ กันเลยครับ

 

                ต้องบอกเลยว่าช่วงนี้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นสูง น้ำมันแพงจากเดิมขึ้นมาก ทำให้หลายคนอยากจะใช้น้ำมันที่มีราคาถูกลง แต่ไม่มั่นใจว่ารถยนต์ที่ใช้จะสามารถเติมน้ำมันผสมกันได้ไหม ก่อนอื่นเรามาดูประเภทของน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้กับรถยนต์กันก่อนดีกว่า ซึ่งมีดังนี้

 

น้ำมันเชื้อเพลิง แบ่งเป็น 2 ประเภท

  • น้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องยนต์เบนซิน
    • เบนซิน
    • แก๊สโซฮอลล์ 95
    • แก๊สโซฮอลล์ 91
    • แก๊สโซฮอลล์ E20 (น้ำมัน 80% เอทานอล 20%)
    • แก๊สโซฮอลล์ E85 (น้ำมัน 15% เอทานอล 85%)

 

  • น้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล 
    • น้ำมันดีเซล B7 (ผสมไบโอดีเซล 7%)
    • น้ำมันดีเซล B10 หรือเรียก น้ำมันดีเซล (ผสมไบโอดีเซล 10%)
    • น้ำมันดีเซล B20 (ผสมไบโอดีเซล 20%)

 

เติมน้ำมันสลับไปมา เติมน้ำมันผสมกัน จะมีผลอย่างไรกับรถยนต์

                หากเรามีความจำเป็นต้องเติมน้ำมันผสมกัน เพราะน้ำมันแพง อยากเติมน้ำมันที่มีราคาถูกกว่า หรือปั๊มน้ำมันไม่มีน้ำมันที่ต้องการ หรือไม่สามารถจำประเภทน้ำมันได้ ทำให้เติมน้ำมันผิดประเภท เช่น แต่เดิมเติมแก๊สโซฮอลล์ E20 มาตลอด แต่เปลี่ยนมาเติม แก๊สโซฮอลล์ 95 หรือ แก๊สโซฮอลล์ 91 อย่างนี้ สามารถเติมน้ำมันผสมกันได้ เพราะเป็นเบนซินเหมือนกัน แต่ก็ควรเลือกเติมน้ำมันทีมีค่าออกเทนตามที่เครื่องยนต์รองรับได้ ไม่ทำให้เครื่องยนต์เสียหายแต่อย่างใด

                ทั้งนี้รถยนต์บางรุ่นจะมีการระบุไว้เลยว่า รองรับน้ำมันที่มีค่าออกเทนตั้งแต่ 95 ขึ้นไป ซึ่งรถคันนั้นจะไม่สามารถเติมแก๊สโซฮอลล์ 91 ได้ แต่ต้องเติมเฉพาะ แก๊สโซฮอลล์ 95, แก๊สโซฮอลล์ E20 และเบนซิน 95 เท่านั้น

                เช่นเดียวกับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันดีเซล ก็จะสามารถเติมน้ำมันดีเซลผสมกันได้ แต่ต้องดูด้วยว่ารถยนต์รองรับน้ำมันดีเซลแบบไหน หากที่ฝาถังน้ำมันระบุว่า 0-B20 แสดงว่ารถยนต์คันนั้นสามารถเติมได้ตั้งแต่น้ำมันดีเซลแบบธรรมดา ไปจนถึง น้ำมันดีเซล B7, B10 และ B20

                อย่างไรก็ดี แม้ว่าการเติมน้ำมันผสมกัน จะไม่ส่งผลเสียต่อเครื่องยนต์ แต่ช่างผู้เชี่ยวชาญก็ไม่แนะนำเท่าไรนัก เพราะหากเติมน้ำมันสลับกันไปมาบ่อย ๆ อาจส่งผลให้เครื่องยนต์เกิดการเปลี่ยนแปลงได้เล็กน้อย ทางที่ดีควรเติมน้ำมันให้ถูกประเภท และตรงกับที่ระบุไว้ในคู่มือว่ารถยนต์รองรับน้ำมันเชื้อเพลิงแบบใด ชนิดใดบ้าง เพื่อการใช้งานรถอย่างปลอดภัย และเป็นการยืดสภาพรถยนต์ให้ใช้ได้อย่างยาวนาน

บทความอื่นที่ใกล้เคียง

เพราะรอยยิ้มของคุณ คือความสุขของเรา

ลมยางรถยนต์ควรเติมเท่าไหร่จึงจะดีที่สุด

รถแต่ละประเภทหรือแต่ละรุ่นเติมแรงดันลมยางไม่เท่ากัน จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามโดยเด็ดขาดเลยนะคะ แรงดันลมยางที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเติมลมยางรถเก๋งนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 30-32 PSI (ปอนด์ต่อตารางนิ้ว) สำหรับล้อหน้าและล้อหลัง แต่ถ้าหากต้องบรรทุกน้ำหนักมาก เช่น กรณีที่มีผู้โดยสารเต็มทั้ง 5 ที่นั่ง หรือบรรทุกของด้านหลังจนเต็ม อาจเพิ่มปริมาณการเติมได้ถึง 33-35 PSI เนื่องจากน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้น ส่วนแรงดันลมยางที่เหมาะสมที่สุดสำหรับรถกระบะนั้นจะค่อนข้างใช้ลมยางที่มากกว่ารถเก๋งโดยสารตามปกติ โดยสำหรับล้อหน้าแรงดันยางจะอยู่ที่ประมาณ 36-38 PSI และล้อหลังที่ 40-42 PSI แต่ถ้าหากบรรทุกของเต็มท้ายรถ ก็สามารถเพิ่มปริมาณการเติมลมเพื่อรองรับน้ำหนักได้มากถึง 47-51 PSI เลยทีเดียวค่ะ

scroll up