การขับขี่ที่ดีควรมียางรถยนต์ที่ดีเป็นตัวประสานระหว่างรถและผู้ขับ หากยางรถยนต์ที่ใช้นั้นดีประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนก็จะออกมาอย่างเต็มที่

            การที่จะเปลี่ยนยางรถยนต์สักครั้งควรเรียนรู้ว่า ยางรถยนต์แต่ละชนิดผลิตขึ้นมาเพื่อการใช้งานประเภทใด ซึ่งจะทำให้เราได้ของที่เราต้องการมากที่สุด ตอบโจทย์การใช้งานเรามากที่สุด และคุ้มเงินเรามากที่สุด เราจึงควรมีความรู้ในการเลือกใช้เอง

คืออะไร ? ตัวเลขบนยางรถยนต์

“ยางรถยนต์” เป็นส่วนประกอบสำคัญทำให้รถเกาะถนน และไม่ให้รถส่ายไปมา ในขณะเบรกหรือเลี้ยวเข้าโค้ง อีกทั้งยังมีหน้าที่รับน้ำหนักรถและสัมภาระ ปัจจุบันยางรถยนต์มีให้เลือกหลากหลายแบรนด์ ส่วนใหญ่นำเข้าจากเกาหลี ญี่ปุ่น ยุโรป และอเมริกา เป็นต้น ซึ่งแต่ละแบรนด์มีคุณสมบัติความแข็งแรงทนทาน แตกต่างกันออกไป หลายคนอาจจะยังไม่เคยสังเกตว่ายางรถยนต์ที่ใช้ มีตัวเลข สัญลักษณ์แปลกๆ อยู่บนแก้มยาง วันนี้พี่หมีความรู้มาบอก ตัวเลขบนยางบอกอะไรได้บ้าง เชื่อว่าหลายคนอาจจะยังไม่เข้าใจว่าตัวเลขบนยางรถยนต์มีความหมายไหม สามารถบ่งบอกอะไรได้บ้าง

            โดยทั่วไปยางรถยนต์จะมีรหัสบนแก้มยาง ซึ่งรหัสนี้สามารถบ่งบอกได้หลายอย่าง เช่น ขนาด วันผลิต รวมถึงระยะเวลาในการเปลี่ยนยาง เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เพราะหากยางรถยนต์หมดอายุ การใช้งานอาจทำให้รถยนต์เวลาขับเคลื่อน เข้าโค้ง หรือเบรกไม่เกาะติดถนน ส่งผลทำให้รถยนต์ส่ายไปมา ตัวเลขบนยางรถยนต์ สามารถบ่งบอกอะไรได้บ้าง ดังนี้

ยกตัวอย่างเช่น 195 / 50R15 82W   

- 195 หมายถึง ความกว้างของยาง มีหน่วยเป็นมิลลิเมตร  

- 50 หมายถึง ความสูงของแก้มยางมีหน่วยเป็นเปอร์เซ็นต์ เท่ากับ 97.5 ของความกว้างยาง (วิธีคิด (195*50)/100=97.5)

-  R หมายถึง ชนิดของยางแบบเรเดียล ปัจจุบันมี 3 แบบ

1. ยางแบบธรรมดา (Bias หรือ Conventional tire) วิ่งนุ่มนวล ระยะเวลาการใช้งาน ความคงทนไม่นาน

2. ยางเรเดียล (Radial tire) มีความทนทาน ช่วยให้รถยนต์ประหยัดน้ำมัน เมื่อวิ่งบนท้องถนนมีความนุ่มนวลน้อย

3. ยางแบบเบลเตดไบแอส (Belted bias tire) อยู่ในความเป็นกลาง เมื่อใช้วิ่งบนถนนมีความนุ่มนวลและความแข็งแรงคงทนปานกลาง 

- 15 หมายถึง ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางล้อ หน่วยเป็นนิ้ว   

- 82 หมายถึง พิกัดรับน้ำหนัก ที่สามารถบรรทุกได้

- W หมายถึง พิกัดอัตราความเร็ว ที่สามารถขับเคลื่อนได้     

- สำหรับตัวเลขที่อยู่หลังตัวอักษรบริเวณยาง ที่มีตัวอักษรหลัก 3-4 ตัว จะบ่งบอกวันที่ผลิต ตัวเลข 2 ตัวแรก บอกถึงสัปดาห์ที่ทำการผลิต และตัวเลข 2 ตัวหลังบอกถึงปีที่ผลิต โดยยางทุกเส้นจะมีการระบุวันที่ผลิตอย่างชัดเจน ซึ่งตัวเลขดังกล่าวจะเป็นตัวบ่งบอกตามเวลาเหมาะสม ที่ควรจะเปลี่ยนยาง เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน

การเลือกซื้อยาง

            นอกจากการพิจารณาตัวเลขบนยางรถยนต์แล้วนั้น ต้องเน้นเรื่องของคุณภาพเนื้อยาง ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบดอกยาง หรือประสิทธิภาพการยึดเกาะ ยางที่มีสมรรถนะสูงที่ออกแบบมาแต่ละความเร็วของรถยนต์ แต่ละชนิดที่ไม่เหมือนกัน ต้องเลือกให้เหมาะสมกับรถของคุณให้ได้ใช้ยางรถยนต์อย่างปลอดภัยที่สุด

            เมื่อทราบถึง ตัวเลขบนยางรถยนต์ กันดีแล้ว ต่อไปก่อนจะซื้อยางรถยนต์ทุกครั้งก็ขอให้นำคำแนะนำเหล่านี้ข้างต้นไปศึกษาและดูตัวเลขบนยางรถยนต์ให้ละเอียดก่อนซื้อยางรถยนต์ทุกครั้ง รวมถึงซื้อประกันภัยรถยนต์ติดรถไว้เสมอ